7 ขนมไทย สืบสานวัฒนธรรม ขนมที่หน้าตาสวยงาม เอกลักษณ์ของไทย ที่ควรอนุรักษ์
7 ขนมไทย ที่เด็กสมัยนี้ ไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว แถมขนมบางอย่าง ก็แทบจะหารับประทานกันไม่ได้แล้ว
หาตัวคนที่ทำเป็น ตามสูตรต้นฉบับจริง ๆ นั้น ยากซะเหลือเกิน ขนมไทย เป็นของหวาน ที่ทำขึ้นและ
รับประทานกัน ในราชอาณาจักรไทย ขนมไทย ได้ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ ของวัฒนธรรมไทยลงไป
ก็คือ ความละเอียดอ่อน ประณีต และการเลือกคัดวัตถุดิบ พิถีพิถัน รสชาติหวาน หอม อร่อย
สวยงามและน่ารับประทาน ในสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์ ถือว่าเป็นยุคทอง ของการทำขนมไทย
เมื่อมีสาวชาวโปรตุเกส เชื้อสายญี่ปุ่นนามว่า “มารี กีมาร์” ภรรยาเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือบรรดาศักดิ์ว่า
“ท้าวทองกีบม้า” ข้ารับราชการ เป็นต้นเครื่องขนม ในวังได้นำไข่ และ น้ำตาลทราย เป็นส่วนผสมสำคัญ
ในขนมไทย และได้ดัดแปลงสูตรขนมต่าง ๆ เช่น ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหม้อแกง
และยังเป็นขนม ที่นิยมรับประทานกัน
วันนี้เราจะพาน้อง ๆ และเพื่อน ๆ หรือบางคนที่อาจจะไม่เคยรู้จัก ขนมไทยโบราณ ว่าเป็นอย่างไร กับ 7 ขนมไทย
ขนมหวานอันแสนอร่อย ที่อยู่คู่ประเทศสยาม มาอย่างยาวนาน เผื่อใครได้อ่านแล้ว อยากจะลองไปหามารับประทาน
หรือใครที่กำลังอยู่บ้านว่าง ๆ ก็ไปค้นหาวิธีการทำ ในอินเทอร์เน็ตได้นะคะ เป็นการสืบสาน วัฒนธรรมขนมไทยโบราณ
ได้อีกด้วยค่ะ มาดูกันค่ะว่า 7 ขนมไทย ที่แสนอร่อย น่ารับประทานมีอะไรกันบ้าง จริง ๆ แล้วมีมากกว่านี้นะคะ
แต่เราเลือกเอาที่เราชอบกิน มาให้เพื่อน ๆ น้องๆ ได้ชมกันค่ะ
- ข้าวเหนียวมะม่วง คงไม่มีใครไม่รู้จัก ต่างชาติมาก็ต้อง ไปหามาลองรับทารกัน เป็นเมนูขนมหวาน
ที่ผสมผสานกัน ระหว่าง ของหวานกับ ผลไม้ไทย อย่างมะม่วงน้ำดอกไม้สุก ที่มีรสชาติหวานละมุน
หอมกลิ่นมะม่วงสุก ทานคู่กับข้าวเหนียวมูน ราดน้ำกะทิ และโรยด้วยถั่วเขียวซีก เลาะเปลือกคั่ว
หอมละมุนหวานมัน เป็นเมนูขนมหวานในดวงใจ ของใครหลาย ๆ คนเลยค่ะ
2. ขนมตาล เป็นขนมที่ขั้นตอนการทำ และการหาวัตถุดิบ อาจจะยากไปสักหน่อย เพราะต้องใช้ลูกตาลจริง ๆ
ที่สุกแล้วร่วงลงมาจากต้น นำมาทุบ ๆ แล้วนำไปต้มให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วมัดตากลมไว้ 1 คืน
จะได้เป็นเหมือนแป้งสีเหลือง ๆ ที่มาจากลูกตาล จากนั้นก็นำไปผสมกับ กะทิ แป้ง ผงฟู น้ำตาลทราย เกลือ
หมักทิ้งไว้ จึงจะนำลงไปเท ลงในถ้วยพิมพ์ พร้อมนึ่งให้สุก กลิ่นหอมยั่วยวนมากๆเลยค่ะ จากนั้นโรยหน้าด้วย
มะพร้าวขูด เป็นอันเสร็จค่ะ เมื่อรับประทานแล้ว เนื้อของขนมตาลนุ่มฟู และหอมละมุนมาก ๆ เลย
3. ขนมหม้อแกง เป็นอีกหนึ่งขนมที่ใช้กะทิ เป็นส่วนประกอบ ผสมกับไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ
นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่แป้งข้าวเจ้า และเผือกบด ผสมให้เข้ากัน และนำไปตั้งไป
และเทลงแม่พิมพ์ หลังจากนั้นนำไปเข้าเตาอบ 25 – 30 นาที เป็นอันเสร็จ ตอนอบกลิ่นหอม
ไปสามบ้าน แปดบ้าน แถมยังอร่อยมาก ๆ อีกด้วย และใครที่เคยขับรถผ่าน จังหวัดเพชรบุรี
และได้แวะ ร้านขายของฝาก คงต้องได้เจอกับเจ้า ขนมหม้อแกงนี้แน่นอน ถือเป็นของดี
เมืองเพชรบุรีเลยค่ะ ใครผ่านก็ลองแวะซื้อมาชิมดูนะคะ
4. ขนมต้ม สำหรับใครที่ชอบไปเดินตลาดเช้า ๆ ส่วนมากก็จะเจอกับเจ้า ขนมต้ม นี้แน่นอน
เป็นอีกหนึ่งขนมที่เราเจอ ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ แล้วอร่อยด้วยนะนะ ขนมต้มนั้น เป็นขนมที่มีไส้
ห่อด้วยแป้ง และนำไปคลุกกับมะพร้าวขูด โดยตัวไส้ก่อนที่จะนำมาห่อแป้ง ต้องผัดไส้ด้วยมะพร้าวขูด
น้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำใบเตย เคี่ยวให้แห้งตั้งไว้ให้เย็น และนำแป้งข้าวเหนียวกับน้ำกะทิ และนำมา
ห่อไส้ขนม จากนั้นต้มน้ำให้เดือด และนำลงไปต้มจนสุก แล้วจะลอยขึ้นมา ตักขึ้นมาแล้วนำไปคลุก
กับมะพร้าวขูด เท่านี้ก็เสร็จแล้วค่ะ
พาไปย้อนวัยเด็ก ด้วย 7 ขนมไทย รักษ์วัฒนธรรม สายขนมหวานต้องชอบ
5. ลูกชุบ สมัยเป็นเด็ก เราชอบขนมลูกชุบมาก ๆ เลย เพราะมันเหมือนพวก ผลไม้ ผัก จิ๋ว
เล็ก ๆ แล้วมันกินได้ด้วย ดูเก๋ ๆ ดีอะชอบ ๆ ขนมลูกชุบ เป็นขนมที่ทำมาจาก ถั่วเขียวเลาะเปลือก
นึ่งให้สุกแล้วปั่น กับน้ำหัวกะทิ และน้ำตาลทราย แล้วก็เอามาปั้น เป็นรูปอะไรก็ได้ ตามใจเราเลย
จะเป็น พริก มะเขือ มะม่วง หรือ ผักผลไม้ต่าง ๆ เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำไปชุบ กับสีผสมอาหาร
แล้วเคลือบด้วยวุ้น ปักด้วยใบไม้ เพื่อความสมจริง
6. ทองหยอด เป็นขนมไทยโบราณที่ขึ้นชื่อ จากฝีมือของ “ท้าวทองกีบม้า” เป็นขนมที่
ใคร ๆ ก็รู้จัก เป็นขนมไทยมงคล ที่ใช้ไข่เป็นและใช้เฉพาะไข่แดง กรองกับผ้าขาวบางให้ฟู
ใส่แป้งลงไปละคนให้เข้ากัน จากนั้นตั้งน้ำเชื่อมให้เดือด แล้วหยอดลงไปในน้ำเชื่อม เมื่อสุกแล้ว
จะลอยขึ้นมา จากนั้นก็พักไว้ให้เย็น และเป็นอันเสร็จค่ะ ง่ายมาก ๆ
เลยใช่ไหมคะ ลองไปหาสูตร แล้วลองทำตามกันดูนะคะ
7. ขนมเบื้อง ใครไปตลาดนัด หรือตามงานวัด ก็คงต้องได้เจอแน่ ๆ เรียกได้ว่า เป็นขนมที่ เด็ก ๆ ก็ชอบ
ผู้ใหญ่ก็กิน เห็นมาตั้งแต่เล็ก ๆ นึกถึงแล้วก็อยากกินอีกจัง ขนมเบื้อง เป็นขนมไทยโบราณ ที่นิยมทานกัน
จนถึงทุกวันนี้ วิธีทำ ต้องแยกทำไส้กับแป้ง โดยการตอกไข่เป็ดแล้วนำไข่แดงไปทำไส้นม และไข่ขาว
ผสมครีมออฟทาทาร์ เพื่อทำครีมทาบนหน้าแป้ง ที่ตีเป็นวงบนกระทะ จากนั้นใช้ไม้ทำขนม ตักขึ้นมาพับไว้
แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ ใครที่อยากลองทำตาม ลองหาสูตรได้ ในกูเกิลเลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ ขนมไทยโบราณ น่ากิน และทำง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ใครที่อยากลองรับประทาน
ก็ลองหาร้านขนมใกล้บ้านได้นะคะ ส่วนใครที่อยากจะลองทำ ก็ลองหาสูตรได้ตามอินเทอร์เน็ตเลยค่ะ
ถือเป็นเสน่ห์ปลายจวัก ที่แม่บ้านต้องมีเลยค่ะ และยังเป็นการอนุรักษ์ ขนมไทยไปในตัวด้วยค่ะ
เรียบเรียงโดย : แพรรี่คนสวย