มาการอง ขนมที่ต้นกำเนิดมาจาก การขาดแคลนอาหาร ของประชาชนในสมัยก่อน
มาการอง ขนมที่มี สีสันสดใส น่ารัก น่ารับประทาน ซึ่งเป็นหนึ่งในขนม ที่สาวหวานอย่าง อลิส ชอบทานมากค่ะ มาการอง ภาษาอังกฤษ เขียนว่า macaron
ซึ่งเจ้าขนมนี้ มีที่มาจาก เมื่อสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 คือยุคแห่ง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้ข้าวยาก หมากแพง ไม่มีเนื้อสัตว์ ให้รับประทานมากนัก จึงทำให้ บรรดาแม่ชี ชาวอิตาเลียน ที่อพยพมาฝรั่งเศส
ได้นำอัลมอนด์ ไข่ขาว น้ำตาล มาประกอบ เป็นอาหาร และขนม เพื่อทานประทังชีวิต ขนมมาการอง คือ คุกกี้สองชิ้น ขนาดเท่ากัน นำมาประกบกัน และได้เพิ่ม สีสันสดใส โดยการใส่ไส้ต่าง ๆ ตรงกลางขนม
จนกระทั่งขนม ที่ทำจากอัลมอนด์นี้ เป็นที่ถูกอก ถูกใจชาวฝรั่งเศส กันเป็นอย่างมาก ทำให้กลายเป็น ของหวาน มาการอง ราคา แพงที่ชาวฝรั่งเศสชื่นชอบ สืบมาจนถึงปัจจุบัน
มาการอง เจ้าแรกของโลกที่วางขาย คือร้านขนม และเบเกอรี่ในประเทศฝรั่งเศส
เจ้าแรกของโลก คือแบรนด์ LADURÉE ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1862 โดย Louis Ernest Ladurée ในประเทศฝรั่งเศส เริ่มแรกร้าน LADURÉE เป็นเพียงแค่ ร้านขายขนม และเบเกอรีทั่ว ๆ ไป
แต่จุดเปลี่ยน ของร้านก็มาถึง เมื่อ Pierre Desfontaines ซึ่งเป็นญาติกับผู้ก่อตั้งร้าน ได้คิดค้น ขนม มาการอง สูตรฝรั่งเศส ขึ้น ขนมมาการอง ที่เพื่อน ๆ คุ้นตากัน ในทุกวันนี้ จะมีลักษณะ คล้ายคุกกี้ 2 ชิ้นประกบกัน
โดยมีไส้ รสชาติต่าง ๆอยู่ตรงกลาง แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า ก่อนหน้านี้ ขนมมาการอง ไม่ได้มีลักษณะแบบนี้ในอดีต ผู้คนจะทานขนมชนิดนี้แยกกัน โดยจะหยิบทาน เฉพาะตัวฝาเป็นชิ้น ๆ ไป
แต่ Pierre Desfontaines ซึ่งเธอเป็นผู้ที่นำตัวฝา ทั้งสองด้าน มาประกบกัน แล้วสอด ไส้มาการอง ด้วยครีมที่มี ลักษณะเหนียวข้น หรือที่เรียกกันว่า กานาช
ซึ่งมีหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต สตอเบอรี่ วานิลลา อัลมอนด์ หรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็นต้น และมักนิยม ทานคู่กับชา
หรือ กาแฟค่ะ
จากร้านขายขนมเล็กๆในเมืองปารีส กลายเป็นคาเฟ่ ที่รวมตัวของสาวๆ
จนสู่การเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้ขนมมาการองรู้จักไปทั่วโลก
ร้าน LADURÉE ได้มีการเปลี่ยนโฉม หน้าร้านใหม่ โดยได้ Jules Chéret ซึ่งเป็นศิลปิน ที่กำลังโด่งดังมากๆ ในยุคนั้น มาตกแต่งร้านให้
จึงทำให้ร้าน มีสไตล์เป็นแบบ ที่เราเห็นกัน ในทุกวันนี้ นอกจากนี้ บุคคลสำคัญ ที่ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญของร้านนี้ ก็คือ Jeanne Souchard ซึ่งเป็นภรรยาของ Louis Ernest Ladurée
เธอได้ทำให้ร้าน LADURÉE กลายมาเป็น คาเฟ่สุดชิค ของปารีส และยังเป็น ร้านที่สามารถ มานั่งจิบชา และทานขนม แห่งแรกของเมืองได้ และจุดนี้เองที่ทำให้ร้านนี้ ได้รับความนิยม
จากสาว ๆ อย่างล้นหลาม เพราะในปารีส ยุคสมัยนั้น ผู้หญิงจะไม่ค่อย รู้สึกสบายใจ รู้สึกอึดอัด ที่ต้องไป นั่งร้านกาแฟ หรือร้านที่ เต็มไปด้วยผู้ชาย
แต่ด้วยสไตล์ การตกแต่งของร้านLADURÉE ที่ออกแนว สีพาสเทล ดูหวานนุ่มนวล จึงกลายมาเป็น ที่รวมตัวของสาวๆ ทำให้พวกผู้หญิง สามารถมา รวมตัวกันได้ และรู้สึกสบายใจ มากกว่าร้านอื่นๆ
หลังจากนั้น กิจการร้าน LADURÉE ก็ได้ไปสะดุดตา David Holder และ Francis Holder ซึ่งทั้งสองคนนี้ ก็คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท Holder Group และในปี 1993 พวกเขาก็ได้ เข้ามาซื้อกิจการ
ต่อมาในปี 1997 พวกเขาก็ได้ ขยายสาขาของ LADURÉE ไปในถนน Champs-Elysées ซึ่งเป็นถนน ที่สวยงาม แห่งหนึ่งของโลก และยังเป็นย่านการค้า ที่เต็มไป ด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ที่ไม่ว่าใคร จะมาปารีส ก็ควรที่จะแวะมา ที่นี่สักครั้ง ซึ่งการที่นำร้าน มาเปิดบน ถนนแห่งนี้ ก็ได้ทำให้ LADURÉE กลายเป็นที่รู้จัก ไปทั่วโลก จนในปัจจุบัน ได้ขยายสาขา ไปมากกว่า 85 แห่ง ใน 30 ประเทศ
นอกจากนี้ ตัวแบรนด์ LADURÉE ยังได้ขยายไป ผลิตสินค้าอื่นๆ นอกจากมาการอง และเบเกอรี่ อย่าง Les Merveilleuses Ladurée แบรนด์เครื่องสำอาง ระดับ Hi-End Les Marquis de Ladurée
เป็นแบรนด์ที่ขาย เฉพาะสินค้า ที่เกี่ยวกับช็อกโกแลต Beauté Ladurée แบรนด์เทียนหอม และสินค้าที่ ใช้กับร่างกาย Les Secrets Ladurée ขายพวกของ ที่ระลึกจากแบรนด์ LADURÉE
ซึ่งก็ได้ครองใจ ลูกค้ามาได้กว่า 158 ปีแล้วค่ะ ส่วนในไทยก็มีสาขาอยู่ค่ะ อลิส แนะนำที่สาขา สยามพารากอน เพื่อนๆ สามารถไปชิม รสชาติของ ขนมมาการอง ต้นตำรับชาวฝรั่งเศส และรับรองได้ว่า จะได้ถ่ายรูปสวย ๆ จากในร้าน ด้วยแน่นอนค่ะ